วิเคราะห์ประเด็น “ดีมานต่างชาติ” ถ้ามาอยู่ไทยเยอะดีจริงไหม

ช่วงที่ผ่านมาได้มีเหล่ากูรูจากสำนักต่างๆ เข้ามามาถกประเด็นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นดีมานต่างชาติให้เข้ามาอยู่ไทยเยอะๆ ประเทศจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น แม้แต่อดีตนายกทักษิณเองก็ได้มีการถกประเด็นนี้ในงาน The Vision of Thailand ด้วยเช่นกัน ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาอย่างดร.โสภณคิดเห็นอย่างไร

ตามข้อมูลของ United Nations บน Wikipedia ในปี 2019 ประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีประชากรประมาณ 3.5% อาศัยอยู่ต่างประเทศ หรือประมาณ 271,642,105 ล้านคน เราลองมาดูประเทศเหล่านี้ซึ่งมีประชากรมากกว่า 30% อาศัยอยู่ต่างประเทศกันจะเห็นได้ว่าประเทศเกือบทั้งหมดที่มีประชากรแปลกหน้าจำนวนมากทำเช่นนั้นเป็นหลักเพราะพวกเขามาขายงาน 


และบางประเทศอาจรับคนนอกบ้าง นอกจากนี้ยังมีประเทศในยุโรปตะวันตกที่รับผู้อพยพจำนวนมาก เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และสแกนดิเนเวีย


จากการรวมตัวของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะเห็นได้ว่ามีผู้คนจำนวนมากมาจากต่างประเทศ จากประชากรทั้งหมด 13,149,612 คน เกือบ 90% เป็นคนนอก


อินเดียมีประชากรมากที่สุดที่ 4.75 ล้านคนหรือ 37.96% ของประชากรทั้งหมด รองลงมาคือปากีสถาน บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ อิหร่าน อียิปต์ และเนปาล


ถ้าเราลองมองสิงคโปร์ เราจะพบว่าประเทศที่มีประชากรอาศัยอยู่ต่างประเทศมากที่สุดคือฟิลิปปินส์ รองลงมาคือจีนและอินโดนีเซีย ประเทศเพื่อนบ้านกำลังจะขายงานในสิงคโปร์ในช่วงปลายปี 2023


หากเราพิจารณาผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัวของชาวสิงคโปร์ เราจะเห็นว่าเงินเดือนโดยทั่วไปจะสูงถึง 88,953 ดอลลาร์ต่อคน ในขณะที่เงินเดือนของไทยอยู่ที่เพียง 7,362 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าเงินเดือนต่อหัวของสิงคโปร์สูงกว่าไทยหลายเท่า


บางคนอาจโต้แย้งว่าจีนมีประชากรแปลกหน้า 1,030,871 ล้านคน แต่กลับอยู่อันดับที่ 53 ใช่ไหม? หากเรานับประชากรแปลกหน้า ก็ยังไม่มากเท่ากับประเทศไทย ซึ่งมีประชากรแปลกหน้า 3,635,085 คน นอกจากนี้ ฮ่องกงยังมีประชากรต่างด้าวที่โดยทั่วไปมีจำนวนมากกว่าจีน โดยมี 2,942,254 คน สิงคโปร์มีประชากรต่างด้าว 2,155,653 คน


สำหรับประเทศไทย จากข้อมูลขององค์การแรงงานต่างด้าว เกี่ยวกับการวัดจำนวนแรงงานต่างด้าวที่ได้รับใบอนุญาตทำงานซึ่งอยู่ทั่วประเทศ ณ เดือนกรกฎาคม 2024 พบว่าส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากเมียนมาร์ กัมพูชา และลาว


กลุ่มแรงงานที่มีความสามารถมีเพียง 182,082 คน ซึ่งมีเพียง 56,143 คนในกลุ่มที่มีการเติบโตด้านการลงทุน ส่วนที่เหลืออีก 125,939 คนอยู่ในกลุ่มทั่วไป

 

โอกาสที่คนนอกจะเข้ามาอาศัยในประเทศไทยอาจไม่ได้ใช้แรงงานไทย เช่น จีนอาจนำงานจากประเทศตัวเองมา รัสเซียนำนักออกแบบและแอปพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่ (ในภูเก็ต) มาใช้


คนนอกเหล่านี้อาจไม่ได้ใช้แรงงานไทย พวกเขาอาจจ้าง "คนงาน" จากเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ซึ่งไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ในทำนองเดียวกัน การรวมตัวของคนจีนที่อ่อนแออาจทำผิดและควบคุมพนักงานของรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบต่อมิตรภาพ เศรษฐกิจ และการเมือง


จากมุมมองของดร.โสภณจึงมองว่าการมีคนนอกอาศัยอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจคึกคักเพิ่มมากขึ้น แต่อาจเป็นการเข้ามาเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของคนไทยเองเสียมากกว่า