3 สมาคมคาดปีหน้าปรับลด LTV

 

สถานการณ์ปัจจุบัน

ปัจจุบัน ปัญหาหลักในการซื้อที่อยู่อาศัยไม่ได้อยู่ที่ปัญหาการเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังพบว่าธนาคารมีการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ขอสินเชื่อบ้านราคาไม่สูง ซึ่งจากข้อมูลที่มีการเปิดเผย พบว่าอัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเดิม 10-15% เป็น 35-60% ในบางโครงการ

ดังนั้น หากภาครัฐสามารถจัดทำมาตรการใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ

 

สิ่งที่คาดหวังจากรัฐบาล

นายสุนทรได้เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการหลายรายได้ปรับลดราคาบ้านและนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุนการก่อสร้าง ทำให้ราคาบ้านยังคงอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบการคาดหวังจากภาครัฐคือมาตรการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้น เช่น การผ่อนปรนมาตรการ LTV (Loan to Value) และการขยายระยะเวลาลดหย่อนค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น


บทสรุป

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มทรงตัว แต่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสสุดท้าย โดยนายกสมาคมอสังหาฯ ทั้ง 3 ราย เห็นพ้องกันว่าต้นปี 2568 จะมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น จากปัจจัยการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ และรถไฟฟ้าเชื่อมต่อสามสนามบิน

ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น นโยบายการเงินที่มีการลดดอกเบี้ยและการผ่อนปรนมาตรการ LTV จะช่วยเร่งให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยฟื้นตัวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.