บทบาทสำคัญ AI ที่จะผลักดันตลาดอสังหาฯ
การปรับตัวของโครงการอสังหาฯ
โครงการหลายแห่งเริ่มใช้เทคโนโลยี AI ในการทำงานในวงการรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์
ล่าสุด กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้นำ AI มาช่วยลดผลกระทบด้านการจราจรและสิ่งแวดล้อม
โดยใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) และอุปกรณ์ตรวจวัดสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศ
เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มความตระหนักรู้ให้กับธุรกิจต่าง ๆ
หลายแห่งเริ่มศึกษาข้อดีของ AI เพื่อนำมาพัฒนาธุรกิจของตน
รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการแข่งขันสูงอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย
ทำความรู้จัก AI
กันสักหน่อย
AI (Artificial Intelligence) คือเทคโนโลยีที่ช่วยในการประมวลผลข้อมูล
มันสามารถเรียนรู้ชุดคำสั่งและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสมบัติของ AI ทำให้สามารถพัฒนาธุรกิจได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ
โดยเฉพาะในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ AI ช่วยในการวางแผน
การบริหารจัดการ และการตลาด ตลอดระยะเวลาการอยู่อาศัยของลูกค้า AI ทำงานผ่านองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น Machine
Learning และ Deep Learning ซึ่งแต่ละส่วนมีรายละเอียดแตกต่างกันไป
Machine Learning คือการทำให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ด้วยตัวเอง
โดยใช้ข้อมูลในการเรียนรู้ ระบบมุ่งเน้นไปที่การจดจำลักษณะเด่น
เพื่อจำแนกข้อมูลต่าง ๆ
Deep Learning คือการเรียนรู้ของคอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบวิธีการทำงานของสมองมนุษย์
ใช้โครงข่ายคล้ายเซลล์ประสาทในการกรองข้อมูล
สามารถคาดการณ์และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้
“McKinsey สหรัฐอเมริกา”
ได้คาดการณ์ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ AI จะพัฒนาต่อไป และรวบรวมข้อมูลจากลูกค้า ช่วยระบุโอกาสใหม่ในตลาด
ปรับปรุงการออกแบบอาคารและการตกแต่งภายใน สร้างสื่อการตลาดที่นวัตกรรม
เปิดแหล่งรายได้ใหม่ และผลิตสื่อที่ตรงเป้าหมาย
บทความของ Pavitra M Content Operations
Specialist เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2567 เสนอวิธีการนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
เพื่อให้เกิดประโยชน์ในกระบวนการต่าง ๆ
การนำ AI
มาใช้ในตลาดอสังหาฯ
1.
การประเมินมูลค่าทรัพย์สินสามารถทำได้อย่างรวดเร็วในไม่กี่วินาที
ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ยอดขายด้วยตนเองได้
นอกจากนี้ยังสามารถค้นคว้าแนวโน้มในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย
การค้นคว้าจะอิงจากปัจจัยแวดล้อมหลายร้อยรายการ เช่น แหล่งการศึกษา แหล่งงาน สิ่งอำนวยความสะดวก
และอัตราการเกิดอาชญากรรม เป็นต้น
2.
การวิจัยและพัฒนาสินค้าและบริการ
(R&D) เป็นหัวใจสำคัญในการเติบโตของธุรกิจที่ยั่งยืน
เป็นที่ชัดเจนว่า AI มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูล
การนำข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาสินค้าและบริการ
จะทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
3.
การรวบรวมและสรุปข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารจัดการทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง
เช่น เอกสารการเช่าและสัญญา ภาษาทางกฎหมายมักทำให้เข้าใจยาก
การสืบค้นช่วยให้ค้นหาข้อมูลได้สะดวกและรวดเร็ว
เราสามารถสรุปประเด็นสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.
การวางแผนและออกแบบโครงการใช้แบบจำลองที่ขับเคลื่อนด้วย
AI โดยสร้างเป็นทัวร์เสมือนจริง (Virtual Tours) ผู้ซื้อสามารถชมอสังหาริมทรัพย์ได้ก่อนการเยี่ยมชม
สร้างประสิทธิภาพในการสื่อสารและนำเสนอการขาย
นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าได้ดีขึ้น
5.
การสร้างแบรนด์ต้องมีการสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจน
การใช้การสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยได้
การจัดแคมเปญการตลาดที่เหมาะสมก็สำคัญมาก การนำเอาเครื่องมือ AI มาใช้จะช่วยในการแบ่งกลุ่มผู้รับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจ
การตั้งค่าคุณสมบัติช่วยให้ส่งแคมเปญไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น
6.
การเพิ่มประสิทธิภาพบริการลูกค้าด้วย AI กำลังเป็นที่สนใจอย่างมาก นิติบุคคลอาคารชุดฯ
มีหน้าที่ในการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชน ข้อมูลประชากรทุกด้าน
รวมถึงการแชตผ่านโซเชียลมีเดีย จะถูกเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลขนาดใหญ่
ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์ด้วย AI เพื่อนำเสนอประโยชน์ต่างๆ
ให้กับผู้อยู่อาศัยได้