For Money to Change The World เงินเปลี่ยนโลก
บทนำ
ลองคิดดูนะ ถ้าคุณให้เงินก้อนโตแก่บริษัทน้ำมัน
หลายหมื่นหลายแสนล้านดอลลาร์ คุณจะปล่อยให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาเป็นคู่แข่งที่อาจทำให้การลงทุนของคุณเสี่ยงขึ้นเหรอ?
แล้วก็เรื่องการผลิตไฟฟ้าที่บ้านเรานี่เอง
ซึ่งก็ดูเหมือนจะมีปัญหาเหมือนกัน ที่เราเห็นค่าไฟแพงขึ้นทุกวัน จริงๆ
แล้วมันไม่ใช่เพราะการไฟฟ้าไม่มีการผลิตพอ แต่เค้าถูกจำกัดให้ผลิตไฟฟ้าด้วยตัวเอง
และต้องไปซื้อพลังงานทางเลือกจากเอกชนแทนเป็นจำนวนมาก น่าสนใจไหม?
เงินเปลี่ยนโลก
เงินมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกในยุคเริ่มต้น
โดยเฉพาะในยุคล่าอาณานิคมของยุโรป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอีกครั้ง
บริษัทสำรวจจากอังกฤษและดัตช์ อย่างเช่น Dutch East
India Company และ East India Company ของอังกฤษ
เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ แม้จะมีชื่อคล้ายกันเพราะมาจากประเทศที่ต่างกัน
แต่แนวทางในการระดมทุนต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อังกฤษได้ใช้วิธีระดมทุนจากชนชั้นสูง
ในขณะที่ดัตช์นั้นเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนที่สนใจสามารถลงทุนได้
โดยมีการออกใบหุ้นให้กับผู้ที่ลงทุน ซึ่งถือว่า Dutch
East India Company เป็นบริษัทมหาชนแห่งแรกของโลก
ในช่วงเวลานั้น อังกฤษยังมีการเกิดขึ้นของวัฒนธรรมกาแฟอย่างรวดเร็ว
ร้านกาแฟได้ถูกเปิดขึ้นมากมายในลอนดอน และร้านกาแฟชื่อดัง เช่น Jonathan’s Coffee ก็เป็นจุดเริ่มต้นของโลกการเงินสมัยใหม่ที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน
Jonathan’s Coffee ร้านกาแฟที่มีการเขียนราคาหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ
ลงบนกระดานและกระดาษในปี 1698 จนกลายเป็นศูนย์รวมบรรดานักซื้อขายหุ้น
นักลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า
กลายเป็นจุดศูนย์กลางของเหล่าโบรกเกอร์ทั่วลอนดอน จนทำให้ลอนดอนค่อยๆ
กลายเป็นศูนย์กลางการเงินโลกในท้ายที่สุด
ส่วนอีกหนึ่งร้านกาแฟสำคัญที่สร้างประวัติศาสตร์การเงินโลกด้านธุรกิจประกันภัยก็คือ
Lloyd’s Coffee House ร้านกาแฟธรรมดาที่รวมเหล่านักเดินเรือ
คนที่เกี่ยวกับการเดินเรือทั้งหลายไว้อย่างน่าสนใจ
เหล่าคนเดินเรือมักมารวมตัวที่ร้านกาแฟแห่งนี้กัน จนค่อยๆ
ก่อให้เกิดการแชร์ข้อมูลของเรือแต่ละลำ
จนนำไปสู่การเกิดบริษัทประกันภัยระดับโลกอย่าง Lloyd’s Insurance ในท้ายที่สุด
นี่คือจุดเริ่มต้นของเงินเปลี่ยนโลกที่ชัดเจนยุคแรก
ลองมาดูเงินเปลี่ยนโลกยุคถัดมาอีกสักนิดดีกว่า
กำเนิดฟองสบู่
ลองเข้าใจว่าฟองสบู่คืออะไรนะครับ
มันเป็นสถานการณ์ที่คนหันมาสนใจบางอย่างอย่างมาก จนทำให้ราคาของมันพุ่งสูงขึ้น
แต่สุดท้ายแล้วมันก็จะแตกไป
อีกตัวอย่างที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์อเมริกาคือฟองสบู่หุ้นรถไฟ
ในช่วงที่อเมริกาพัฒนาทางรถไฟเพื่อเชื่อมเมืองต่างๆ โดยมีโฆษณาบอกว่าที่ดินรอบสถานีจะมีมูลค่าสูงและเกิดการค้าและการเดินทางมากมาย
นั่นทำให้การลงทุนในหุ้นรถไฟกลายเป็นฟองสบู่ที่ทำให้หลายคนหลงเชื่อและประสบความเสียหายอย่างมหาศาล
กฎหมายเอื้อเศรษฐีเปลี่ยนโลก
ทุกคนที่ลงทุนหรือมีเงินมักต้องการวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาเงินของตัวเอง
การหลีกเลี่ยงภาษีด้วยวิธีที่ถูกกฎหมายกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนรวย ดังนั้น
การเลือกลงทุนนั้นควรเริ่มจากการมองหาวิธีลดหย่อนภาษีให้ได้มากที่สุด
หรือถ้าไม่ต้องเสียภาษีเลยนั้นจะถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ
หลายประเทศหรือรัฐได้ปรับกฎหมายด้านการเงินและภาษีเพื่อดึงดูดมหาเศรษฐีให้ย้ายเงินมายังประเทศหรือรัฐของตน
เช่น หมู่เกาะหรือบางรัฐในอเมริกา เช่น รัฐเดลาแวร์
ที่มีบริษัทจดทะเบียนมากกว่าจำนวนประชากร
เพราะกฎหมายการเงินที่เอื้อให้เกิดผลดีต่อผู้ลงทุน
รัฐเดลาแวร์ได้ออกแบบกฎหมายใหม่เพื่อทำให้เป็นสวรรค์ทางการเงินสำหรับมหาเศรษฐี
โดยการจดทะเบียนบริษัทที่นี่จะเสียภาษีเพียงเล็กน้อย
ในขณะที่รัฐอื่นอาจมีอัตราภาษีที่สูงกว่า
ควรพิจารณาว่าการที่รัฐเหล่านี้ทำเช่นนี้เพื่อดึงดูดทุนจากบริษัทใหญ่ๆ
นั้น ช่วยให้นักลงทุนเห็นความน่าสนใจและความได้เปรียบในการประหยัดภาษี
แม้จะเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถหมายถึงการประหยัดเงินได้มหาศาล
ผลก็คือรัฐเดลาแวร์ซึ่งมีประชากรไม่ถึงล้าน กลับมีบริษัทมากกว่า 1.6 ล้านบริษัทที่มาจดทะเบียนที่นั่น ดังนั้น
การออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนการหลบเลี่ยงภาษีจึงเป็นกลยุทธ์ที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินจากที่อื่นเข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
สวิตเซอร์แลนด์คือสวรรค์ของคนรวย
เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดการเงินและการหลบเลี่ยงภาษี
โดยเฉพาะตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ที่พวกเขาก็รับฝากเงินจากทั้งชาวยิวและนาซีอย่างพร้อมเพรียง
แถมยังมีการป้องกันข้อมูลลูกค้าอย่างเข้มงวด จนออกกฎหมายห้ามเปิดเผยข้อมูล
ซึ่งทำให้สวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นสวรรค์ของคนมีเงินอย่างแท้จริง
ไม่ว่าจะเป็นเงินขาว เงินเทา หรือเงินดำก็มีหมด!
บทสรุป
รู้มั้ยครับว่าในขณะที่เงินดอลลาร์ถือเป็นค่าเงินหลักของโลกในปัจจุบัน
แต่จริงๆ แล้วมันถูกใช้เพียง 25% เท่านั้นเอง ในอดีต เงินปอนด์อังกฤษเคยโด่งดังมากๆ ใช้กันทั่วโลกมากกว่า 80% จนทำให้ลอนดอนกลายเป็นศูนย์กลางการเงินที่สำคัญ
ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังได้รับความนับถือในเรื่องนี้
สำหรับสิงคโปร์เอง
การเติบโตขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการเงินที่เชื่อมโยงกระแสเงินทั่วโลกก็เป็นผลจากการวางเป้าหมายนี้จากลอนดอนไปอเมริกา
โดยที่ข้อมูลทางการเงินไม่หยุดอยู่แค่ลอนดอน
แต่ถูกส่งต่อมายังสิงคโปร์เพื่อเตรียมให้ตลาดเงินในลอนดอนเปิดทำการในวันถัดไป
จากการเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่องนี้
ทำให้โลกการเงินในทุกวันนี้ไม่มีการหยุดพัก
เงินจะหมุนไปตามแสงไฟอย่างไม่รู้จักเหนื่อย แม้ว่าเราจะหลับอยู่
แต่เงินทั้งหลายกลับทำงานอย่างไม่มีหยุด
นี่คือบทเรียนเกี่ยวกับเงินที่ส่งผลต่อโลกเราในทุกยุคสมัย
ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนโลก เริ่มจากการปรับทิศทางเงินของคุณให้ถูกต้อง
แล้วโลกจะหมุนตามกระแสเงินนั้นเองครับ