ลุ้นอสังหาฯ ปี 2568 อาจฟื้นตัวหากพ้นจุดต่ำสุดทางเศรษฐกิจ
ภาพรวมอสังหาปี
2567
ปี 2567 ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ซบเซาและปัจจัยลบหลายด้าน ด้านหนี้ครัวเรือนขยับสูงขึ้น มาตรการผ่อนปรนการควบคุมสินเชื่อถูกยกเลิก ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยอดการปฏิเสธสินเชื่อก็สูงขึ้น เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างมีนัยสำคัญ
ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี
2567 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน
มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทุกประเภท รวมทั้งอาคารชุดและที่อยู่อาศัยแนวราบรวม
250,580 หน่วย จำนวนนี้ลดลง 7.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 270,650 หน่วย. มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 705,389 ล้านบาท ลดลง 8% เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ที่มีมูลค่า 766,971 ล้านบาท
ภาพรวมคอนโดไตรมาส
3 ยอดโอนเพิ่ม-มูลค่าลด
การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในไตรมาส 3 ปี 2567 มีจำนวน 31,247 หน่วย รวมทุกระดับราคา เพิ่มขึ้น 7.6%
เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีการโอน 29,041 หน่วย แต่มีมูลค่ารวม 79,284 ล้านบาท
ซึ่งลดลง 1.7% จากมูลค่า 80,673
ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
คอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 7
ล้านบาทได้รับการสนับสนุนจากมาตรการที่รัฐบาลออกมา
ส่งผลให้มีการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 29,883 หน่วย หรือ
9.1% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่มี 27,391 หน่วย
มูลค่ารวมอยู่ที่ 59,271 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 6% จากปีที่แล้วซึ่งมีมูลค่า 55,933 ล้านบาท
ในขณะที่คอนโดมิเนียมที่มีราคามากกว่า 7.5 ล้านบาทกลับมีการโอนกรรมสิทธิ์ลดลง!
ยอดโอนกรรมสิทธิ์แนวราบลดทุกระดับราคา
การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยแนวราบในไตรมาส 3 ปี 2567
ลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีจำนวนหน่วยที่โอนอยู่ที่ 59,381 หน่วย ลดลง 9.9%
เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมี 65,905 หน่วย มูลค่าการโอนอยู่ที่ 173,968 ล้านบาท ลดลง 7%
เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ในส่วนของที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป แม้ว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการรัฐ
แต่จำนวนหน่วยที่โอนกลับเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวน 1,715 หน่วย
เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่มี 1,625 หน่วย มูลค่าอยู่ที่ 36,642 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่มีมูลค่า 34,392 ล้านบาท
มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ
ในไตรมาส 3 ปี 2567
จำนวนโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน มีจำนวน 90,628
หน่วย ลดลง 4.5% จาก 94,946 หน่วยในปีที่ผ่านมา ด้านมูลค่าก็ลดลงเช่นกัน มีมูลค่า
253,252 ล้านบาท ลดลง 5.4%
มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01%
ช่วยส่งผลให้การโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 2 และ 3 ลดลงน้อยกว่าต้นปีที่ผ่านมา
โดยไตรมาสแรกมีจำนวนหน่วยและมูลค่าลดลง 13.8% และ 13.4% ตามลำดับ ในไตรมาส 2
จำนวนหน่วยลดลง 4.5% และมูลค่าลดลง 5.7% อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 3
จำนวนหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ยังคงลดลง 4.5% และ 5.4% ตามลำดับ
แนวโน้มอสังหาปี
67 ลดลง 4.4%
คาดการณ์โอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2567 จะมีจำนวน 350,545 หน่วย ลดลง 4.4% โดยเฉพาะแนวราบจะมี 243,088 หน่วย ลดลง 6% ซึ่งมีช่วงลดลงระหว่าง 15.4% ถึง 3.3% ขณะที่อาคารชุดคาดว่าจะมีจำนวน 107,456 หน่วย ลดลง 0.6%
มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทุกประเภทอยู่ที่ 1,012,760 ล้านบาท ลดลง 3.3%
โดยมูลค่าแนวราบอยู่ที่ 717,052 ล้านบาท ลดลง 3.4% ส่วนอาคารชุดมีมูลค่า 295,707 ล้านบาท ลดลง 2.9%
สำหรับปี 2567 คาดว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปปล่อยใหม่จะมีมูลค่า
600,812 ล้านบาท ลดลง 11.4%
แต่คาดว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้นในปี
2568 โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปปล่อยใหม่ทั่วประเทศจะมีมูลค่า 614,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3%