วิเคราะห์เจรจาต่อรองทรัมป์ขึ้นภาษี

 

ไกด์ไลน์แนวทางบริหารโดนัลด์ ทรัมป์

การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวาระแรกของโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวทางและสไตล์การบริหารที่ชัดเจน การขู่ขึ้นภาษีศุลกากรล่าสุดกับจีนที่เพิ่มขึ้น 10% และกับแคนาดา-เม็กซิโกที่เพิ่มขึ้น 25% เมื่อวานนี้ น่าจะบ่งชี้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจา ไม่ใช่จุดจบของการค้าโลก


ทรัมป์ได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 25 พ.ย. เขาได้กล่าวถึงกลยุทธ์ที่ฝ่ายต่อต้านและฝ่ายพันธมิตรคุ้นเคย โดยเขาขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% และขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% ข้อเรียกร้องนี้มีเป้าหมายให้ประเทศเหล่านี้ปราบปรามผู้อพยพและยาเสพติดผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้ามาในสหรัฐ สหรัฐมีการค้ากับทั้งสามประเทศนี้มากเกือบครึ่ง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของการค้าทั้งหมดของสหรัฐฯ


ทรัมป์เตรียมเรียกเก็บภาษีเพิ่มกับเม็กซิโก

บลูมเบิร์กระบุว่า สิ่งนี้ทำให้รู้สึกคุ้นเคยเมื่อนึกถึงความเสี่ยงและคำขู่ในช่วงการดำรงตำแหน่งของทรัมป์ ในเดือนพฤษภาคม 2019 ทรัมป์ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่าจะเรียกเก็บภาษี 5% จากเม็กซิโกภายใน 10 วัน เขาจะเพิ่มภาษีตามลำดับ จนกว่าเม็กซิโกจะหยุดการลักลอบเข้ามาในชายแดนทางตอนใต้ของสหรัฐฯ


เม็กซิโกยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข

ผลที่เกิดขึ้นตามมาคือ เม็กซิโกยอมปฏิบัติตาม และไม่เคยมีการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวเลยเบเกอร์กล่าวว่า ประเทศคู่ค้าในช่วงทรัมป์ดำรงตำแหน่งวาระแรกได้เรียนรู้บางอย่าง เขาเชื่อว่าประสบการณ์นั้นมีประโยชน์มาก แต่ยังไม่สามารถวางใจได้ทั้งหมด เบเกอร์เตือนว่าอย่าคิดว่าพวกเขามีทรัมป์ 1.0 แล้วจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ และจะจัดการกับมันอย่างไร


ข้อตกลงสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)

การขู่ว่าจะถอนตัวจากข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ส่งผลให้เกิดข้อตกลงใหม่ชื่อว่าข้อตกลงสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ขึ้นมาแทนที่ นอกจากนี้ ยังมีการขู่ว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรกับเม็กซิโก หากไม่หยุดยั้งผู้อพยพลักลอบเข้าสหรัฐ ขณะที่ข้อตกลงการค้าใหม่กำลังจะเซ็นสัญญากันอยู่

ทรัมป์โจมตีจีนด้วยการขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ แต่หลังจากบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ความรุนแรงของมาตรการลดลง ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากทั่วโลก รวมถึงสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ของสหรัฐด้วย

แดเนียล ทันเนโบม หุ้นส่วนของบริษัทที่ปรึกษาโอลิเวอร์ กล่าวว่า "การประกาศเรื่องนี้ 2 เดือนก่อนเข้ารับตำแหน่ง เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาพร้อมที่จะเริ่มเจรจาแล้ว" เขาเสริมว่าต้องรอดูว่าทีมบริหารชุดใหม่จะทำอย่างไรเมื่อเริ่มลงมือทำ


นักวิเคราะห์ที่คุ้นเคยกับทรัมป์เชื่อว่า วาระใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 จะมีความแตกต่างจากเดิมใน 2 ประเด็นหลัก

ประการแรก ทรัมป์คุ้นเคยกับกลไกอำนาจมากขึ้น เขาได้เรียนรู้มากขึ้นจากประสบการณ์ในอดีต ครั้งนี้เขาวางแผนใช้กฎหมายว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศปี ค.ศ. 1997 เพื่อขึ้นภาษีศุลกากรได้รวดเร็วขึ้น กฎหมายนี้จะใช้ภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ นี่คือกฎหมายเดียวกับที่เขาใช้ในการขออนุมัติงบประมาณจากรัฐสภาเมื่อปี 2019 เพื่อป้องกันผู้อพยพลักลอบข้ามแดน (border wall) เมื่อรัฐสภาไม่เห็นด้วย