อสังหาปี 68 ปรับตัวร่วมทุน-กระจายเสี่ยง

 

แนวโน้มการปรับตัวที่อยู่อาศัย 2568

สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ เปิดเผยว่าในปี 2567 ราคาที่อยู่อาศัยจะปรับขึ้นไม่เกิน 3% ขณะที่ปี 2568 จะมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยคาดว่าราคาที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้น 5% – 7% ทิศทางการปรับราคาจะไม่แตกต่างจากปี 2567 ผู้ประกอบการอาจจะยังคงขายในราคาเดิมหรือราคาใกล้เคียงต้นทุนเดิม เพื่อเร่งปิดการขาย โดยเฉพาะสำหรับโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์


แนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวลดลง

การเปิดขายโครงการใหม่ในปี 2567 คาดว่าจะต่ำกว่าปี 2566 ประมาณ 25% – 30% การโอนกรรมสิทธิ์ลดลง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการต่อเนื่องถึงปี 2568 สถานการณ์เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวลดลง เนื่องจากปัจจัยลบทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และโลก นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีผลดีต่อการลงทุนจากต่างประเทศในประเทศไทย และจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย อย่างไรก็ตาม นโยบายบางอย่างอาจกระทบต่อการส่งออกไทยได้

นักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568 คาดว่าจะกลับมาที่ประเทศไทยในระดับใกล้เคียงกับปี 2562 หรือสูงถึง 40 ล้านคน ความนิยมของสื่อโซเชียลมีเดียและการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานต่าง ๆ จะมีบทบาทสำคัญ ธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นกว่าปี 2567


ความน่าสนใจโครงการแต่ละประเภท

โครงการบ้านจัดสรรยังคงเป็นทางเลือกที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจมากเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมอาจจะมีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตลอดรายไตรมาส ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ บ้านหรูราคาแพงยังเป็นรูปแบบโครงการที่จะออกมาสร้างความตื่นเต้นและน่าสนใจให้กับตลาดอสังหาฯอีกในปี 2568 และคงเหลือผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้บริโภคได้


การปรับตัวดีเวลลอปเปอร์อสังหาฯ

การร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนจากญี่ปุ่น ที่สนใจตลาดไทยเป็นพิเศษ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังมองหาทางขยายธุรกิจสู่ด้านอื่นๆ ที่มีศักยภาพสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและในระยะยาว มากกว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว

มีการเสนอแผนสำรองเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวในปี 2568 บริษัทกำลังพัฒนาโครงการหลายประเภท เพื่อสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง แผนนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ทำให้รายได้รวมของบริษัทไม่ลดลงหรือลดลงไม่มากนัก คาดว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2568 อาจขยายตัวไม่แตกต่างจากปี 2567