Mixed Use — โครงการแนวใหม่ที่กำลังมาแรง

เมื่อไม่นานมานี้หลายๆโครงการผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเริ่มทุ่มเงินมหาศาลพัฒนาโครงการ mixed use building เพื่อดึงศักยภาพการใช้ประโยชน์บนพื้นดินและสร้างโครงการอสังหาที่มีระบบสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจรไว้ในที่เดียว แน่นอนว่าโครงการเหล่านี้ต้องใช้เงินมากกว่าโครงการปกติถึงหลายสิบเท่า แต่ทำไมเหล่าผู้พัฒนา (Developer) ยังคงเดินหน้าเต็มกำลัง พวกเขาเห็นความเป็นไปได้อะไรจากการลงทุนในโครงการเหล่านี้ มาร่วมไขความลับนี้ไปพร้อมกับพวกเราทีมงาน Zet Estate

Mixed Use คืออะไร?

               Mixed use คือ การใช้ประโยชน์ที่หลากหลายในพื้นที่หรืออาคารเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นคอนโดมิเนียมที่ประกอบไปด้วยพื้นที่อาศัย และการนำพื้นที่อื่นๆที่มีอยู่ของอาคารมาใช้ประโยชน์เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการเปิดร้านอาหารภายในอาคาร ห้องประชุม พื้นที่ห้องโถงอเนกประสงค์ Co-working space ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายในการชีวิตบนคอนโดมิเนียมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ 

ความน่าสนใจของโครงการ Mixed use

               โครงการ mixed use building คือการส่งต่อคุณค่าการพักอาศัยที่มีความน่าสนใจหลากหลายประการ จะมีประเด็นอะไรบ้างที่ทำให้โครงการ mixed use เป็นที่น่าสนใจโปรดติดตามข้อดีและลักษณะเด่นต่างๆต่อไปนี้

มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย

เนื่องจากโครงการ mixed use เป็นการรวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างเอาไว้ในพื้นที่เดียวกันไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า ร้านอาหาร ออฟฟิศส่วนกลาง คาเฟ่ ที่พักอาศัยและอื่นๆอีกมากมาย ทำให้การผู้พักอาศัยสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้ไม่ยาก ดังนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่เพิ่มมานี้จะช่วยส่งเสริมให้สภาพแวดล้อมภายในโครงการดูน่าอยู่ และมีความทันสมัยเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย


มูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้น

การที่โครงการ mixed use เลือกสรรสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมาไว้ในที่เดียว เป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่าโครงการ mixed use ถูกสร้างมาเพื่อผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆ ดังนั้นในระยะยาวโครงการ mixed use จะกลายเป็นเป้าหมายหลักของผู้ที่กำลังตามหาอสังหาเพื่อการอยู่อาศัยที่แท้จริง ส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดสูงขึ้นและมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นสูงตาม


ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต

               ลักษณะของโครงการ mixed use คือการรวบรวมสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานต่างๆมาไว้ในที่เดียว ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวันหยุดสุดสัปดาห์ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลไปเผชิญหน้ากับปัญหารถติดให้เสียเวลา เพราะทุกกิจกรรมที่คุณต้องการอยู่ที่โครงการ mixed use


ชุมชนมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น

               การสร้างโครงการ mixed use มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการยกระดับความหลากหลายในพื้นที่ชุมชนนั้นๆ ถ้าหากการสร้างโครงการสไตล์ mixed use ประสบความสำเร็จก็มีแนวโน้มที่ผู้ประกอบการรายย่อยจะเข้ามาตั้งธุรกิจในบรเวณใกล้เคียงกับโครงการ mixed use และถ้าหากชุมชมขยายใหญ่ขึ้นก็จะส่งผลให้อุปสงค์โครงการเพิ่มขึ้นด้วย มีแนวโน้มที่จะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะให้ความสนใจ ชุมชนในพื้นที่ก็จะมีธุรกิจเกิดใหม่เพิ่มขึ้นเกิดเป็นชุมชนที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย


โครงการ Mixed Use ในพัทยา

               เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายแห่งการพักผ่อนอย่าง พัทยาทุนเดิมก็เป็นที่จับจ้องหมายตาของชาวต่างชาติอยู่แล้ว เพราะนอกจากจะเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวแล้ว พัทยายังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งภาคตะวันออกอีกด้วย บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงไม่พลาดรุกตลาดคลอดน้องใหม่อย่าง Mixed use ลงสนามพัทยาอย่างแน่นอน


Once Pattaya

               Once Pattaya โครงการ mixed use ระดับ Ultra Luxury ที่กลายเป็นแลนด์มาร์กของเมืองพัทยาไปเป็นที่เรียบร้อย ถูกพัฒนาโดยบริษัทอสังหายักษ์ใหญ่ระดับประเทศอย่างเครือออร์เนอร์กรุ๊ป จำกัด ที่ทุ่มเม็ดเงินไปมากกว่า 3,700 ล้านบาท ลักษณะโดยรวมของโครงการเป็นอาคารสูง 32 ชั้น จำนวนยูนิตทั้งหมด 427 ยูนิต ขนาดห้องอยู่ที่ประมาณ 28.4-58.80 ตร..

จุดขาย Once Pattaya

               Once Pattaya ยืนหนึ่งได้ด้วยคอนเซ็ปต์โครงการแบบ mixed use ระดับ Ultra luxury ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดไว้จบในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น HYD ONSEN & SPA, โซนบริการร้านอาหารและเครื่องดื่มระดับเดียวกับโรงแรม, คาเฟ่แฟรนไชส์ Hey! Coffee เป็นต้น นอกจากนี้คอนโดมิเนียมยังตั้งอยู่โซนพัทยาเหนือใกล้แหล่งชุมชนรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารมากมาย ทำให้ Once คือหนึ่งในที่พักอาศัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรมากที่สุด


Edge Pattaya

               เอดจ์ เซนทรัล พัทยา โครงการระดับ Hi-end จากแสนสิริที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เปิดตัวคอนโดมิเนียมใจกลางพัทยาติดถนนเลียบชายหาดด้วยราคางามๆที่ 4.9 ล้านบาท พร้อมการันตี Yield ที่ 10% นาน 2 ปีโดยแสนสิริเลยทีเดียว ลักษณะโครงการ High Rise 31 ชั้น 603 ยูนิต ขนาดห้อง 29.75-60.25 ตร.นี่คืออีกหนึ่งผลงาน mixed use ที่ไม่ได้มีดีแค่ฟาซิลิตี้มาดึงดูดเท่านั้น แต่เอดจ์มาพร้อมกับวิวทะเลอันเป็นจุดขายของพัทยาที่พร้อมให้คุณดื่มด่ำไปกับไออุ่นจากแสงแดด กลิ่นไอทะเลสุดผ่อนคลาย และไลฟ์สไตล์สุดหรูหราห่างจากห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในพัทยา เซ็นทรัลพัทยาบีชเพียง 300 เมตร

บทสรุป

               mixed use building คือหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้แสวงหาที่พักอาศัยในระยะยาว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโครงการที่น่าสนใจ ที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว แต่ทั้งนี้เราก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่ากระแสคอนโดมิเนียม mixed use จะได้สามารถยืดหยัดจนกลายเป็นเทรนด์กระแสหลักของตลาดอสังหาได้หรือไม่